การะเกด

ชื่อพื้นเมือง      :         การะเกด ลำเจียกหนู (กรุงเทพ) เตยด่าง เตยหอม (ภาคกลาง)

ชื่อวิทยาศาสตร์ :         Pandanus tectorius Blume

ชื่อวงศ์           :         PANDANACEAE

ชื่อสามัญ        :         Screw pine

ประโยชน์        :         ผลแก่จัดสามารถนำมารับประทานได้ ซึ่งจะมีรสชาติคล้ายสับปะรด

ดอกหอมใช้รับประทานได้ มีรสขมเล็กน้อย ดอกใช้อบกลิ่นเสื้อผ้าให้หอม (สตรีโบราณนิยมนำมาใส่หีบ เพื่ออบกลิ่นเสื้อผ้าให้หอม) ใช้ดอกไปเคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวหรือมันหมู แล้วปรุงเป็นน้ำมันใส่ผม ซึ่งในสมัยก่อนนิยมใช้กันมาก

ใบการะเกดสามารถนำมาใช้ในงานจักสานทำเป็นเครื่องมือใช้สอยต่าง ๆ ได้ดี เช่น กระสอบ เสื่อ หมวก กระเป๋า ฯลฯ เป็นวัตถุดิบของงานหัตถกรรมที่ดีและหาได้ง่าย

การะเกดเป็นไม้ที่มีรูปทรงเฉพาะตัวที่สวยงามแปลกตา ดอกมีกลิ่นหอม ปลูกเลี้ยงง่าย มีความทนทาน อายุยืนยาว และหาพันธุ์ปลูกได้ง่าย จึงสามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับได้ดี (เหมาะสำหรับปลูกตามที่ชื้นแฉะหรือริมฝั่งน้ำ)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

          ต้นการะเกด จัดเป็นพรรณไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนต้น ลำต้นมักแตกกิ่งก้านสาขา มีรูปทรงคล้ายต้นเตย สูงได้ประมาณ 3-7 เมตร มีรากอากาศค่อนข้างยาวและใหญ่ มีเขตการกระจายพันธุ์ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน และนำไปปลูกกันทั่วไป ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะหรือริมน้ำ ดินทรายชายทะเล ลำห้วย ริมลำธาร สามารถพบขึ้นได้ตามชายหาดและพื้นที่ใกล้ชายฝั่งทะเล

ใบการะเกด ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนสลับกันเป็น 3 เกลียวที่ปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปรางน้ำ แผ่นใบค่อย ๆ เรียวแหลมไปหาปลายใบ ส่วนขอบใบมีหนามแข็งยาวประมาณ 0.2-1 เซนติเมตร ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.7-2.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-9 เซนติเมตร แผ่นใบด้านล่างมีนวล

ดอกการะเกด ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่ต่างต้นกัน ดอกจะออกที่ปลายยอดและมีจำนวนมาก ติดอยู่บนแกนช่อ ดอกจะไม่มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก โดยช่อดอกเพศผู้จะมีลักษณะตั้งตรง ยาวได้ประมาณ 25-60 เซนติเมตร มีกาบสีนวลหุ้ม มีกลิ่นหอม เกสรเพศผู้จะติดรวมอยู่บนก้านซึ่งยาวประมาณ 0.8-2 เซนติเมตร ส่วนช่อดอกเพศเมียนั้นจะมีลักษณะค่อนข้างกลม ประกอบไปด้วยเกสรเพศเมียเชื่อมติดกัน 3-5 อัน เป็นกลุ่มประมาณ 5-12 กลุ่ม ในแต่ละกลุ่มจะมีขนาดกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-7 เซนติเมตร ที่ปลายมีลักษณะหยักตื้นเป็นร่องระหว่างยอดเกสรเพศเมีย ยอดเกสรเพศเมียจะเรียงกันเป็นวง

ผลการะเกด ลักษณะของผลจะเบียดกันแน่นเป็นก้อนกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10-20 เซนติเมตร แต่ละผลมีขนาดกว้างประมาณ 2-6.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-7.5 เซนติเมตร เมื่อสุกจะมีกลิ่นหอม โคนสีเหลือง ตรงกลางเป็นสีแดง ส่วนตรงปลายยอดเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง ผลที่สุกแล้วจะมีโพรงอากาศจำนวนมาก