ชื่อพื้นเมือง : กวาว ก๋าว (ภาคเหนือ) จอมทอง (ภาคใต้) จ้า (เขมร) ทองธรรมชาติ ทองพรหมชาติ ทองต้น (ภาคกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Butea monosperma (Lam.) Taub.
ชื่อวงศ์ : FABACEAE
ชื่อสามัญ : Flame of the Forest, Bastard Teak
ประโยชน์ : รากทองกวาวมีสรรพคุณช่วยบำรุงธาตุ ใช้ต้มรักษาโรคประสาท ดอกทองกวาวใช้ต้มดื่มช่วยถอนพิษไข้ได้ แก้กระหายน้ำ ช่วยสมานแผลปากเปื่อย ใช้หยอดตาแก้อาการตาแดง เจ็บตา ปวดตา ระคายเคืองตา ตามัว ตาแฉะ ตาฟาง แก่นสามารถใช้ทาแก้อาการปวดฟันได้ ยางช่วยแก้อาการท้องร่วง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 5–15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ ลำต้นแตกกิ่งต่ำคดงอ เปลือกนอกสีเทาถึงสีเทาคล้ำค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็นร่องตื้น ๆ เปลือกในสีแดง สับเปลือกทิ้งไว้จะมีน้ำยางใส ๆ ไหลออกมาทิ้งไว้สักพักจะกลายเป็นสีแดง ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ เรียงเวียนสลับ ใบย่อยมี 3 ใบ เรียงตรงข้าม ใบย่อยที่ปลายเป็นรูปมนเกือบกลม ใบย่อยด้านข้างรูปไข่เบี้ยว กว้าง 8–15 ซม. ยาว 9–17 ซม. ปลายใบมน โคนใบสอบ แผ่นใบหนา หลังใบเกลี้ยง ท้องใบมีขนสาก เส้นแขนงใบข้างละ 5–7 เส้น ก้านใบย่อยยาว 3–5 มม. ดอกออกเป็นช่อแบบไม่แตกแขนง ตามกิ่งก้านและปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 2–15 ซม. ก้านช่อดอกมีขนสีน้าตาล ก้านช่อดอกยาว 3–4 ซม. กลีบรองกลีบดอกเชื่อมกันเป็นรูปบาตรยาว 1.3 ซม. ส่วนบนแยกออกเป็นกลีบสั้น ๆ 5 กลีบ มีขนสีน้ำตาลดำปกคลุมตลอดกลีบดอกยาว 7 ซม. มี 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากันคล้ายดอกถั่ว กลีบด้านล่างรูปเรือแยกเป็นอิสระดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 6 ซม. ดอกมีทั้งสีแสดและสีเหลืองสด ดอกสีเหลืองพบที่เชียงราย เชียงใหม่ อุบลราชธานี สุรินทร์ ผลเป็นฝักแบนรูปบรรทัดกว้าง 3.5 ซม. ยาว 1.5 ซม. ผลแก่สีน้ำตาลอมเหลืองมีขนอ่อนนุ่มสีขาวเป็นมัน มีเมล็ดเดียวตรงปลายฝัก
ลำต้น
ใบ
ใบ
ดอก
ผล
ผล
เมล็ด
เมล็ด