ชื่อพื้นเมือง : มะค่าหลวง , มะค่าหัวคำ , มะค่าใหญ่
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Afzelia xylocarpa (Kurz) Craib
ชื่อสามัญ : Black rosewood , Pod mahogany
ประโยชน์ : มะค่าโมงเป็นไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้มีลวดลายสวยงาม เนื้อไม้สีน้ำตาลอมแดง นิยมใช้แปรรูปเป็นไม้แผ่นปูพื้น ไม้วงกบ เสาบ้าน และไม้ชายคาสำหรับก่อสร้างบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เปลือกมะค่าโมงมีน้ำฝาด นิยมใช้สำหรับฟอกหนัง ฝักอ่อนนำเนื้อเมล็ดมาต้มรับประทาน ทั้งรับประทานเป็นของคบเคี้ยว และรับประทานคู่กับอาหารอื่น ๆ เมล็ดแก่นำมาเผาไฟหรือคั่วรับประมาณ เนื้อเมล็ดให้รสมัน เปลือกลำต้น (ต้มน้ำดื่ม) ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ รักษาริดสีดวง แก้ท้องเสีย รักษาโรคบิด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะค่าโมง เป็นไม้ขนาดใหญ่ แต่ไม่สูงมากนัก ลำต้นมีความสูงประมาณ 10 – 18 เมตร มีเรือนยอดเป็นพุ่มกว้าง แตกกิ่งต่ำตั้งแต่ระดับล่างของลำต้น เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลอ่อนอมชมพู กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม ใบมะค่าโมงเป็นใบประกอบ ออกเรียงสลับกันบนกิ่งแขนง มีก้านใบหลักยาวประมาณ 18-30 เซนติเมตร มีประกอบด้วยใบย่อยขึ้นตรงกันข้าม 3 – 5 คู่ ใบย่อยมีก้านใบสั้นประมาณ 3 – 5 มิลลิเมตร ใบย่อยแต่ละใบมีรูปไข่ ฐานใบ และปลายใบมน แผ่นใบเรียบ และมีสีเขียวเข้ม แผ่นใบมีเส้นกลางใบชัดเจน ขนาดใบกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4 – 10 เซนติเมตร ดอกมะค่าโมงออกดอกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 5 – 15 เซนติเมตร มีขนคลุมบางๆ ดอกย่อยมีก้านดอกยาว 7 – 10 มิลลิเมตร ดอกมีใบประดับเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 6 – 9 มิลลิเมตร มีขนปกคลุม กลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบรองดอกมีรูปขอบขนาน เรียงซ้อนทับกัน ยาวประมาณ 10 – 12 ส่วนกลีบดอกมีเพียงกลีบเดียว มีรูปทรงกลม ยาว 5 – 12 มิลลิเมตร แผ่นกลีบดอกมีสีแดงเรื่อๆ ถัดมาด้านในเป็นเกสรตัวผู้ที่มี 11 อัน ที่มี 8 อัน เป็นเกสรสมบูรณ์ และ 3 อัน เป็นหมัน ก้านเกสรแยกออกจากกัน ถัดมาตรงกลางเป็นเกสรตัวเมีย มีขนปกคลุมยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร ด้านล่างเป็นรังไข่ โดยดอกจะออกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม